กำมะถันผง (Sulfur Powder)
สารเคมีธรรมชาติที่มีสูตรเคมีคือ S (Sulfur) มีลักษณะเป็นผงสีเหลืองอ่อนถึงเหลืองเข้ม ไม่มีกลิ่นหรือมีกลิ่นเฉพาะตัวเล็กน้อย ใช้ประโยชน์หลากหลายทั้งในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการแพทย์แผนโบราณ
🔬 คุณสมบัติของกำมะถันผง
- เป็นธาตุบริสุทธิ์ — ไม่ใช่สารประกอบ แต่เป็นธาตุในตารางธาตุ
- ละลายได้น้อยในน้ำ — แต่ละลายได้ดีในตัวทำละลายบางชนิด เช่น คาร์บอนไดซัลไฟด์
- มีคุณสมบัติเป็นสารกันเชื้อราและฆ่าแมลง — โดยเฉพาะไร แมลงปากดูด และเชื้อราบางชนิด
- มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน — เมื่อสัมผัสกับความชื้นหรืออากาศจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นกรดซัลฟิวริกอ่อนๆ
- ไม่เป็นพิษต่อสัตว์เลือดอุ่นในปริมาณที่ใช้งานทั่วไป — แต่ควรระวังการสูดดมหรือสัมผัสโดยตรงในปริมาณมาก
🌿 ประโยชน์และการใช้งานของกำมะถันผง
1. ทางการเกษตร
-
- กำจัดไรและแมลงศัตรูพืช — โดยเฉพาะไรแดง ไรขาว เพลี้ยไฟ ที่เป็นปัญหาในพืชผัก ไม้ดอก และไม้ผล เช่น พริก มะเขือ มะนาว ลำไย
- ควบคุมโรคจากเชื้อรา — เช่น โรคราแป้ง (Powdery Mildew), โรคใบจุด, โรคแอนแทรคโนส
- ใช้ได้ในระบบเกษตรอินทรีย์ — เพราะเป็นสารจากธรรมชาติ ย่อยสลายง่าย ไม่สะสมในดิน
- ใช้ผสมกับหินปูน (หินปูน + กำมะถัน = กำมะถันผสม) เพื่อลดความเป็นพิษและเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโรคพืช
2. ทางการแพทย์และสุขภาพ (แบบดั้งเดิม)
-
- ใช้ในเครื่องสำอาง — ครีมหรือโลชั่นรักษาสิว (Sulfur Acne Treatment)
- บำบัดอาการคันจากผิวหนัง — โดยเฉพาะที่เกิดจากเชื้อราหรือปรสิต
3. ทางอุตสาหกรรม
- ใช้ผลิตกรดซัลฟิวริก — ซึ่งเป็นสารเคมีสำคัญในอุตสาหกรรมหลายประเภท
- ใช้ในอุตสาหกรรมยาง — เป็นสารช่วยในการวัลคาไนซ์ยาง (Vulcanization) เพื่อให้ยางแข็งแรงและทนทาน
- ใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ ยา สารเคมี และปุ๋ย
🌳 บทบาทของ “กำมะถันผง” ในการปลูกทุเรียน — สรุปแบบเจาะลึก
✅ 1. เป็นธาตุอาหารรองที่จำเป็นสำหรับทุเรียน
ทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจที่ ต้องการกำมะถันในปริมาณสูง เพราะกำมะถันเป็นองค์ประกอบสำคัญของ กรดอะมิโน (เช่น เมไทโอนีน, ซิสเทอีน) และ โปรตีน ที่เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโต การสังเคราะห์เอนไซม์ และการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ
โดยเฉพาะใน พื้นที่ลาดชันภาคใต้ ที่ดินมักมีความเป็นกรดสูงและมีการชะล้างธาตุอาหาร กำมะถันจึงถูกชะล้างออกง่าย จำเป็นต้องเติมเสริมอย่างสม่ำเสมอ
แม้ NPK จะเป็นธาตุหลัก แต่ หากขาดกำมะถัน ประสิทธิภาพการใช้ไนโตรเจนจะลดลง — พืชจะแสดงอาการเหลืองระหว่างเส้นใบ (คล้ายขาดไนโตรเจน) แต่เริ่มจากใบอ่อน
📌 คำแนะนำ: ควรเสริมกำมะถันในรูปผงหรือปุ๋ยที่มี S เป็นองค์ประกอบ เช่น ซัลเฟตออฟโพแทสเซียม (SOP), แมกนีเซียมซัลเฟต (Epsom Salt) หรือใช้กำมะถันผงโรยโคนต้นหรือพ่นทางใบ
✅ 2. ควบคุมไรและแมลงศัตรูพืช — โดยเฉพาะ “ไรแดง”
กำมะถันผงมีฤทธิ์ เป็นสารสัมผัส (contact fungicide & miticide) ที่ออกฤทธิ์โดยตรงต่อไรแดง ไรเหลือง ไรสนิม และเพลี้ยไฟ
ไรแดงแอฟริกัน และ ไรสนิม เป็นศัตรูสำคัญของทุเรียน ทำให้ใบไหม้ ร่วง ลดการสังเคราะห์แสง → กระทบต่อการติดผลและคุณภาพผล
ชาวสวนนิยมผสมกำมะถันผงกับยูเรีย — ยูเรียช่วยให้กำมะถันละลายและแทรกซึมเข้าผิวใบได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมไร
📌 สูตรนิยม:
กำมะถันผง 100 กรัม + ยูเรีย 50–100 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
พ่นช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงแดดจัด (>32°C)
พ่นทุก 7–10 วัน ในช่วงระบาดของไร
✅ 3. ใช้เป็นสารไล่แมลงด้วยกลิ่น
แม้กำมะถันจะไม่มีกลิ่นฉุนรุนแรง แต่ในความเข้มข้นบางระดับ มีผลขับไล่แมลงปากดูดและแมลงวันผลไม้
การใช้ในอัตราเบา (100 กรัม/น้ำ 200 ลิตร) เพื่อเน้น “กลิ่น” แทนการฆ่า — เหมาะสำหรับการป้องกันระยะยาว และใช้ร่วมกับ ปุ๋ยทางใบ ได้โดยไม่เป็นอันตราย
🌿 เคล็ดลับ: ผสมกำมะถันผงกับสารจับใบหรือสารเสริมประสิทธิภาพ เช่น น้ำมันพืชเล็กน้อย หรือสบู่อ่อนๆ เพื่อให้เกาะใบได้นานขึ้น
✅ 4. ปรับปรุงคุณภาพดิน — โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดชัน
กำมะถันผงเมื่อถูกออกซิไดซ์ในดิน (โดยจุลินทรีย์) จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็น กรดซัลฟิวริกอ่อนๆ → ช่วย ลดค่า pH ของดิน ที่เป็นด่างหรือเป็นกลางให้เหมาะสมกับทุเรียน (pH 5.0–6.5)
ในพื้นที่ที่เคยใช้ปูนขาวมากเกินไป → กำมะถันช่วย “ปรับสมดุล” ความเป็นกรด-ด่าง
ช่วย ละลายธาตุอาหารที่ตรึงอยู่ในดิน เช่น ฟอสฟอรัส เหล็ก สังกะสี ให้พืชดูดไปใช้ได้ดีขึ้น
ยังมีงานวิจัยพบว่ากำมะถันช่วย ลดการดูดซึมโลหะหนัก เช่น แคดเมียม ตะกั่ว ในพืช — โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์หรือถ่านชีวภาพ
📌 วิธีใช้: โรยโคนต้น 50–100 กรัม/ต้น/ปี หรือผสมคลุกกับปุ๋ยคอกก่อนหว่าน
✅ 5. เพิ่มผลผลิตและคุณภาพผลในระยะยาว
ทุเรียนที่ได้รับกำมะถันอย่างเพียงพอจะมี:
ใบเขียวหนา แข็งแรง
ระบบรากดูดธาตุอาหารได้ดี
ผลใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติดี
ลดการร่วงของผลอ่อน
การปรับดินด้วยกำมะถันอย่างต่อเนื่อง → ช่วยให้ดินมีโครงสร้างดีขึ้น → ระบบรากเดินสะดวก → ผลผลิตเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน
💡 เปรียบเทียบ: เหมือน “วิตามินรวม” ของทุเรียน — ขาดแล้วไม่ตายทันที แต่จะแคระแกร็น ผลผลิตตก คุณภาพต่ำ
วัตถุประสงค์ | อัตราการใช้ | วิธีการ | ความถี่ |
บำรุงพืช / เสริมธาตุอาหาร | 50–100 กรัม/ต้น/ปี | โรยโคนต้นหรือผสมดิน | ปีละ 1–2 ครั้ง |
ควบคุมไรแดง/ไรเหลือง | 100 กรัม + ยูเรีย 50 กรัม / น้ำ 20 ลิตร | พ่นทางใบ | ทุก 7–10 วัน (ช่วงระบาด) |
ป้องกันแมลงด้วยกลิ่น | 100 กรัม / น้ำ 200 ลิตร | พ่นทางใบ | ทุก 15 วัน |
ปรับปรุงดิน (ลด pH) | 1–2 กก./ไร่ | หว่านแล้วไถกลบ | ปีละครั้ง (ก่อนฝน) |
⚠️ ข้อควรระวังเพิ่มเติมสำหรับสวนทุเรียน
ห้ามใช้กำมะถันร่วมกับสารพวก “น้ำมัน” หรือ “สารเคมีด่าง” เช่น บอร์โดซ์มิกซ์, คอปเปอร์ หรือสารกำจัดเชื้อราบางชนิด — จะทำให้เกิดพิษกับใบ
หลีกเลี่ยงการพ่นในวันที่อุณหภูมิ >32°C — เสี่ยงใบไหม้
ควรทดสอบพ่นบนใบไม่กี่ใบก่อน — ทิ้งไว้ 2–3 วัน ดูอาการ หากไม่มีใบไหม้จึงพ่นทั้งต้น
สวม PPE ทุกครั้ง — หน้ากาก แว่นตา ถุงมือ เพราะผงกำมะถันระคายเคืองทางเดินหายใจ



