EDTA-4na กับ เฟอรัสซัลเฟต(FeSO₄) ป้องกันการตกตะกอนในปุ๋ยน้ำ
EDTA 4na คืออะไร
EDTA⁴⁻ (เอทิลีนไดอะมีนเตตระอะซีติก แอสิด ในรูปที่มีประจุ -4) เป็นสารประกอบประเภท ligand หรือ chelating agent ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในเคมีวิเคราะห์ เคมีชีวภาพ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ
💡 คุณสมบัติเด่นของ EDTA⁴⁻
- จับไอออนโลหะแข็งแรงมาก
- สร้างสารประกอบเชิงซ้อน (complex) ที่เสถียรสูง เช่น [Fe(EDTA)]²⁻, [Ca(EDTA)]²⁻ เป็นต้น
- ใช้ควบคุมปริมาณโลหะในสารละลาย
- ใช้ใน titration เพื่อหาปริมาณโลหะ เช่น Ca²⁺, Mg²⁺, Fe²⁺
- ใช้ในงานบำบัดน้ำ, การแพทย์ และเกษตรกรรม
เฟอรัสซัลเฟต (Ferrous Sulfate) หรือ FeSO₄
สารประกอบเกลือของเหล็กที่มีสูตรเคมีหลักคือ FeSO₄ โดยมักพบในรูปผลึกมีน้ำ (heptahydrate) คือ FeSO₄·7H₂O มีลักษณะเป็นผลึกสีเขียวอ่อนหรือฟ้าอมเขียว และละลายน้ำได้ดี
คุณสมบัติและประโยชน์ใช้งาน:
- ทางการแพทย์ :
- ใช้รักษาภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก เนื่องจาก FeSO₄ เป็นแหล่งเหล็กที่จำเป็นต่อการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง
- ผู้ป่วยอาจมีผลข้างเคียง เช่น ท้องผูก หรืออาการคลื่นไส้
- อุตสาหกรรมและเกษตรกรรม :
- ใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียเพื่อกำจัดฟอสฟอรัส
- เป็นส่วนผสมในปุ๋ยเพื่อเสริมธาตุเหล็กให้พืช โดยมักใช้ร่วมกับ EDTA เพื่อป้องกันการตกตะกอนของเหล็กในดิน pH สูง
- คุณสมบัติทางเคมี :
- เหล็กใน FeSO₄ อยู่ในรูป Fe²⁺ (เฟอรัส) ซึ่งมีความสามารถในการทำปฏิกิริยาออกซิเดชันได้ง่าย
- ในรูปผลึกไม่มีน้ำ (anhydrous) มีปริมาณเหล็กสูงถึงประมาณ 32%
FeSO₄ (เฟอรัสซัลเฟต) ถูกใช้ในหลายอุตสาหกรรม
- อุตสาหกรรมการเกษตร (Agriculture)
- ใช้เป็นสารปรับปรุงดินเพื่อป้องกันดินเปรี้ยว และแก้ไขปัญหาการขาดธาตุเหล็กในพืช เช่น อาการใบเหลืองซีด
- ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและเพิ่มผลผลิต
- บำบัดน้ำเสีย (Wastewater Treatment)
- ใช้ในกระบวนการบำบัดน้ำเสียเพื่อป้องกันการตกตะกอนของสารเคมี และควบคุมฟอสฟอรัส
- อุตสาหกรรมยาง (Rubber Industry)
- ใช้เป็นสารบ่มตัวหรือตัวเร่งปฏิกิริยาในการผลิตยาง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ยางที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics Manufacturing)
- ใช้ในปฏิกิริยาเคมีร่วมกับสารอื่นๆ เช่น K₂Cr₂O₇ และ H₂SO₄ เพื่อผลิตวัสดุอิเล็กทรอนิกส์
- อุตสาหกรรมอาหาร (Food Industry)
- ใช้เป็นแหล่งเสริมธาตุเหล็กในผลิตภัณฑ์อาหารหรือเครื่องดื่ม
- ชุบโลหะ (Electroplating)
- ใช้ในกระบวนการชุบโลหะเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติพื้นผิว
- อุตสาหกรรมทั่วไป (General Industrial Applications)
- ใช้ในกระบวนการผลิตสารประกอบเหล็กอื่นๆ และอุตสาหกรรมสิ่งทอ
การใช้งาน FeSO₄ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางเคมีของมัน เช่น การเป็นแหล่งเหล็ก (Fe²⁺) และความสามารถในการทำปฏิกิริยา แต่ต้องควบคุมการใช้อย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพ
การผลิต FeSO₄ (เฟอรัสซัลเฟต) ในอุตสาหกรรมมีหลายวิธี โดยขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและกระบวนการที่ใช้ ดังนี้:
1. การปฏิกิริยาระหว่างเหล็กกับกรดซัลฟูริก
วิธีหลักในการผลิต FeSO₄ คือการให้เหล็ก (Fe) ทำปฏิกิริยากับกรดซัลฟูริก (H₂SO₄) ในสภาพควบคุม ซึ่งให้ผลิตภัณฑ์เป็น FeSO₄·7H₂O (เฟอรัสซัลเฟตไฮเดรต) โดยปฏิกิริยา:
กระบวนการนี้ใช้เหล็กที่มีความบริสุทธิ์สูงและกรดซัลฟูริกเจือจาง
2. ใช้วัสดุเหล็กเหลือใช้หรือขยะเหล็ก
อุตสาหกรรมสามารถผลิต FeSO₄ จากวัสดุเหล็กเหลือใช้ (เช่น เศษเหล็ก, สนิมเหล็ก) หรือของเสียจากกระบวนการผลิตเหล็ก โดยใช้กรดซัลฟูริกเพื่อสกัดเหล็กออกมาในรูปเฟอรัสซัลเฟต วิธีนี้ช่วยลดของเสียและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร
3. กระบวนการผลึกเย็น (Cool Crystallization)
สำหรับการผลิต FeSO₄·7H₂O (Green Vitriol) ในรูปผลึก ใช้กระบวนการผลึกเย็นที่ควบคุมอุณหภูมิและความเข้มข้นของสารละลาย เพื่อให้เกิดผลึกที่มีคุณภาพสูง
4. การเตรียมสารละลายมาตรฐาน
ในห้องปฏิบัติการหรืออุตสาหกรรมขนาดเล็ก อาจเตรียมสารละลาย FeSO₄ โดยการละลายผลึก FeSO₄·7H₂O ในน้ำกลั่น และล้างผลึกเพื่อกำจัด Fe₂O₃ ที่ปนเปื้อน
📌 การนำไปใช้ในอุตสาหกรรม
- เกษตรกรรม : ปรับปรุงดินเปรี้ยวและเสริมธาตุเหล็กในปุ๋ย
- บำบัดน้ำเสีย : ควบคุมฟอสฟอรัสและลดโลหะหนัก
- อุตสาหกรรมเคมี : เป็นสารตั้งต้นในการผลิตสารประกอบเหล็กอื่น
EDTA ใช้ร่วมกับ เฟอรัสซัลเฟต(FeSO₄) ในพืชอย่างไร
การใช้ EDTA ร่วมกับ เฟอรัสซัลเฟต (FeSO₄) ในพืช มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มการดูดซับธาตุเหล็กและป้องกันการตกตะกอนของเหล็ก โดย EDTA จะจับกับ Fe²⁺ สร้างสารประกอบเชิงซ้อน ([Fe(EDTA)]²⁻) ที่เสถียรและละลายน้ำได้ดี แม้ในสภาพแวดล้อมที่ pH สูง
🌱 วิธีการใช้งาน EDTA + FeSO₄ ในพืช
- พ่นทางใบ (Foliar Spray)
- ใช้สารละลาย FeSO₄-EDTA พ่นลงบนใบพืช เพื่อแก้ไขอาการขาดเหล็ก เช่น ใบเหลืองระหว่างเส้นใบ (interveinal chlorosis)
- ตัวอย่าง: ใช้ความเข้มข้น 0.5 mM FeSO₄-EDTA ช่วยปรับปรุงการเจริญเติบโตของถั่วฝักยาว (Cluster bean)
- รดดินหรือให้ทางระบบน้ำ (Fertigation)
- ผสม FeSO₄-EDTA ลงในระบบให้น้ำหรือปุ๋ยน้ำ เพื่อป้องกันการขาดเหล็กล่วงหน้า
- ตัวอย่าง: ปุ๋ยที่มีส่วนผสม 12% EDTA-chelated iron ช่วยเพิ่มการดูดซับธาตุอาหารและส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก
- ใช้ในสารละลายธาตุอาหาร (Hydroponics)
- ในระบบเพาะปลูกแบบไม่ใช้ดิน EDTA ช่วยคงเหล็กในรูปที่พืชสามารถดูดซับได้ แม้ในสภาพที่มีไอออนแข่งขัน เช่น ฟอสเฟตหรือซัลเฟต
✅ ประโยชน์ของการใช้ EDTA + FeSO₄
ป้องกันการตกตะกอนของเหล็ก : EDTA จับ Fe²⁺ อย่างแน่นหนา ป้องกันการเกิด Fe(OH)₃ หรือ Fe₃(PO₄)₂ ที่ไม่ละลายน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับ : สารประกอบ [Fe(EDTA)]²⁻ ถูกดูดซับโดยพืชได้ง่ายกว่า FeSO₄ ธรรมดา เหมาะกับดินปูนหรือ pH สูง : EDTA ทำงานได้ดีที่ pH > 6–10 ซึ่งเหล็กมักตกตะกอน
Chelate EDTA คือสารประกอบเชิงซ้อนที่เกิดจากการจับกันระหว่าง EDTA (EthyleneDiamineTetraacetic Acid) กับไอออนโลหะ โดย EDTA เป็นลิแกนด์ที่มีความสามารถในการจับไอออนโลหะได้หลายจุด (hexadentate ligand) สร้างโครงสร้างวงแหวนที่เสถียรและไม่ละลายน้ำ
🔬 คุณสมบัติหลักของ Chelate EDTA:
- การจับไอออนโลหะแบบ 1:1
EDTA จะจับกับไอออนโลหะในอัตราส่วน 1:1 ไม่ว่าจะเป็นโลหะหนัก (เช่น ตะกั่ว Pb²⁺, ปรอท Hg²⁺) หรือธาตุอาหาร (เช่น เหล็ก Fe²⁺/Fe³⁺, สังกะสี Zn²⁺) โดยไม่ขึ้นกับประจุของไอออนความเสถียรสูง
สารประกอบ Chelate EDTA มีความเสถียรสูงมาก เนื่องจาก EDTA จับกับโลหะทั้ง 6 จุด ทำให้ลดโอกาสที่โลหะจะหลุดออกหรือทำปฏิกิริยากับสารอื่น -
ป้องกันการตกตะกอน
EDTA ช่วยป้องกันการเกิดสารตกตะกอนของโลหะ (เช่น Fe(OH)₃ ในดินปูน) โดยจับโลหะให้อยู่ในรูปที่ละลายน้ำได้
🧪 การใช้งาน Chelate EDTA
- การแพทย์
- คีเลชั่นบำบัด (Chelation Therapy) : ใช้ EDTA เพื่อจับและขับโลหะหนัก (เช่น ตะกั่ว, ปรอท) ออกจากเลือด
- ตัวอย่าง: Ferric EDTA ใช้รักษาภาวะขาดเหล็กในร่างกาย
- การเกษตร
- ผสมในปุ๋ยน้ำเพื่อเพิ่มการดูดซับธาตุอาหาร เช่น เหล็ก (Fe-EDTA) ในพืชที่ปลูกในดิน pH สูง
- ป้องกันอาการใบเหลือง (chlorosis) ของพืช
- อุตสาหกรรมและสิ่งแวดล้อม
- บำบัดน้ำเสียเพื่อกำจัดโลหะหนัก
- ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน
- อาหารและเครื่องดื่ม
- ใช้เป็นสารกันเสีย (antioxidant) โดยจับไอออนโลหะที่ทำให้อาหารเสื่อมสภาพ
การใช้ EDTA ร่วมกับ เฟอรัสซัลเฟต (FeSO₄) ในพืชมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อป้องกันการตกตะกอนของเหล็ก (Fe²⁺) และเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับธาตุอาหาร โดย EDTA จะจับกับ Fe²⁺ สร้างสารประกอบเชิงซ้อน ([Fe(EDTA)]²⁻) ที่เสถียรและละลายน้ำได้ดี แม้ในสภาพแวดล้อมที่ pH สูง ซึ่งเหล็กมักตกตะกอนเป็น Fe(OH)₃
🌱 วิธีการใช้งานและอัตราส่วนที่แนะนำ
1. การปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ (Hydroponics)
- อัตราส่วน :
- ใช้ 20–40 กรัมของ EDTA-chelated iron (โซเดียมเฟอรัส EDTA) และ 15 กรัมของ FeSO₄ ต่อ 1,000 ลิตรของสารละลายธาตุอาหาร
- สำหรับการเตรียมสารละลายมาตรฐาน:
- ละลาย FeSO₄ ในน้ำก่อน (10–20 กรัม/20 ลิตรน้ำ) จากนั้นเติม EDTA ในอัตราส่วน 1:1 โมลาร์ เพื่อจับกับ Fe²⁺
2. พ่นทางใบ (Foliar Spray)
- อัตราส่วน :
- ใช้สารละลาย FeSO₄ 10–20 กรัม + EDTA 10–20 กรัม ต่อ 20 ลิตรน้ำ พ่นลงบนใบพืชเพื่อแก้ไขอาการขาดเหล็ก เช่น ใบเหลืองระหว่างเส้นใบ (interveinal chlorosis)
- ตัวอย่างผลิตภัณฑ์: ใช้ EDTA-chelated iron แบบผง (12% Fe) ในปริมาณน้อย เช่น 1–2 กรัม/10 ลิตรน้ำ
3. รดดินหรือผสมกับปุ๋ยหมัก
- อัตราส่วน :
- ผสม FeSO₄ 15 กรัม + EDTA 20 กรัม ต่อ 1,000 ลิตรน้ำ เพื่อป้องกันการตกตะกอนของเหล็กในดิน pH สูง
- สามารถผสม FeSO₄ กับปุ๋ยหมักและขุดลงดินเพื่อเพิ่มการดูดซับธาตุเหล็กในระยะยาว
✅ ประโยชน์ของการใช้ EDTA + FeSO₄
- ป้องกันการตกตะกอนของเหล็ก : EDTA จับ Fe²⁺ อย่างแน่นหนา ป้องกันการเกิด Fe(OH)₃ หรือ Fe₃(PO₄)₂
- เพิ่มการดูดซับธาตุอาหาร : สารประกอบ [Fe(EDTA)]²⁻ ถูกดูดซับโดยพืชได้ง่ายกว่า FeSO₄ ธรรมดา
- เหมาะกับดินปูนหรือ pH สูง : EDTA ทำงานได้ดีที่ pH > 6–10 ซึ่งเหล็กมักตกตะกอน
⚠️ ข้อควรระวัง
- ปริมาณ EDTA ต้องเหมาะสม : หากใช้ EDTA มากเกินไป อาจจับโลหะอื่น (เช่น แคลเซียม แมงกานีส) ทำให้พืชขาดธาตุอาหารเหล่านั้นแทน
- ควบคุม pH ของสารละลาย : EDTA ทำงานได้ดีที่ pH > 6–10 หาก pH ต่ำเกินไป EDTA จะไม่แตกตัวเต็มที่ ลดความสามารถในการจับ Fe²⁺
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน : เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มี EDTA-chelated iron 12% เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
#เวิลด์เคมีคอลเซ็นเตอร์ #เวิลด์เคมีคอล #เคมีปลีกส่ง #EDTA #เฟอรัสซัลเฟต #FeSO₄ #Chelate